รายได้ที่ดีขึ้นสำหรับผู้เก็บผลไม้ป่าคนไทย
พวกเราต้องการให้นโยบายการเชิญผู้เก็บผลไม้ป่ามีการเปลี่ยนแปลง
เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เก็บผลไม้ป่าจะบอกไปยังหน่วยงานเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเองในสิ่งที่พวกเขาต้องการในตอนนี้เพื่อจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
สิทธิตามกฎหมายทั้งหมดสำหรับผู้เก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ควรครอบคลุมสำหรับผู้เก็บผลไม้ป่าคนไทยด้วย
1.ผู้เก็บผลไม้ป่าควรมีสิทธิที่จะขายผลเบอร์รี่หรือผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติอื่นๆยกตัวอย่างเช่น เห็ดให้กับบุคคลที่พวกเขาได้เลือกเองจริงๆ
2. ผู้เก็บผลไม้ป่าควรมีสิทธิที่จะเลือกเก็บผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติที่ทำกำไรได้มากที่สุดสำหรับพวกเขาเองในแต่ละช่วงเวลา
3. ผู้เก็บผลไม้ป่าควรมีทางเลือกในการเลือกผู้ที่ให้บริการที่พักด้วยตัวของเขาเอง
4. ผู้เก็บผลไม้ป่าควรมีทางเลือกในการเลือกผู้ให้บริการรถเช่าด้วยตัวของเขาเอง
5. ผู้เก็บผลไม้ป่าควรได้รับอนุญาตให้ย้ายสถานที่และที่พักได้อย่างเสรีในประเทศฟินแลนด์ด้วยตัวของเขาเอง
6. ผู้เก็บผลไม้ป่าควรได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศฟินแลนด์ได้ทั้งหมดเป็นระยะเวลา90 วันตามความต้องการของผู้เก็บผลไม้ป่าเอง
7. ผู้เก็บผลไม้ป่าควรจะไ้ด้รับเงินสดโดยตรงจากการขายสินค้าของเขาโดยที่ไม่ผ่านคนกลางคนใดในประเทศไทย เหมือนกับกรณีส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นเช่นทุกวันนี้
8. จุดรับซื้อผลไม้เบอร์รี่ทั้งหมดควรเปิดรับให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจรับซื้อผลไม้เบอร์รี่รายอื่นๆทั้งหมดด้วย ทุกบริษัทควรมีสิทธิ์ที่จะเข้าไปในแคมป์ของผู้เก็บผลไม้เบอร์รี่เพื่อรับซื้อผลไม้เบอร์รี่หรือผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติอื่นๆยกตัวอย่างเช่น เห็ด ได้โดยตรงจากผู้เก็บผลไม้ป่า
9. บริษัทเบอร์รี่ฟินแลนด์ ไม่สามารถเป็นผู้ให้กู้เงินแก่ผู้เก็บผลไม้ป่า หรือรับการค้ำประกันเงินกู้อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้แก่ผู้เก็บผลไม้ป่า ด้วยวิธีนี้จะทำให้ผู้เก็บผลไม้ป่าไม่ต้องตกอยู่ในสภาพที่ไม่มีอิสระแก่ตัวเองจากบริษัทเบอร์รี่ฟินแลนด์ และด้วยวิธีนี้ผู้เก็บผลไม้ป่าจะเกิดความกล้าที่จะขายผลไม้เบอร์รี่หรือผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น เห็ด ให้กับบุคคลที่พวกเขาได้เลือกที่จะขายให้
10. ผู้เก็บผลไม้ป่าจะต้องได้รับวีซ่ามาฟินแลนด์โดยไม่มีการเชิญจากบริษัทเบอร์รี่ฟินแลนด์ซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายฟินแลนด์ถ้าทำเช่นนั้นหากไม่มีผู้เชิญ ผู้เก็บผลไม้ป่าสามารถสร้างรายได้มากขึ้นและลดความเสี่ยงที่จะล้มเหลว เพราะว่าไม่มีใครที่สามารถออกคำสั่งแก่ผู้เก็บผลไม้ป่าได้
11. ผู้เก็บผลไม้ป่านั้นควรมีสิทธิ์ติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ในประเทศไทยได้โดยตรง โดยไม่ต้องมีผู้ประสานงานเป็นคนกลางประสานงานให้ เมื่อผู้เก็บผลไม้ป่าต้องการยื่นขอวีซ่าก็สามารถยื่นขอวีซ่าเพื่อไปเก็บผลไม้ป่าเบอร์รี่ในประเทศฟินแลนด์ได้ด้วยตัวเอง