สวัสดีครับ ผมเป็นคนเก็บผลไม้ป่าเบอร์รี่คนไทย
ผมรู้สึกว่ามีเพียงคนไม่กี่คนที่รู้จริงและเข้าใจว่าการเก็บผลไม้ป่าเบอร์รี่นั้นมีวิธีการทำงานให้เสร็จสิ้นอย่างไรเพื่อทำให้ได้รายได้จากมัน และทั้งนี้เป็นเพราะว่าผู้คนส่วนใหญ่เหล่านั้นไม่เคยทำงานอย่างนี้ด้วยตัวของเขาเองหรือเพราะว่าคนงานที่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้จริงๆไม่ได้บอกพวกเขาเกี่ยวกับการทำงานเช่นนี้เลย
ตอนนี้ผมจะบอกคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า สิ่งต่างๆที่คนเก็บผลไม้ป่าถูกให้ปฏิบัติตามกฏระเบียบมาตลอดเวลานั้นเป็นอย่างไร และกฏระเบียบนั้นมีสิ่งที่ผิดพลาดอะไรบ้าง และวิธีการแก้ไขควรจะจัดการให้กฎระเบียบนั้นให้ดีขึ้นอย่างไร
การเดินทางมาเก็บผลไม้ป่าเป็นงานที่น่าสนใจเพราะในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคมเป็นช่วงเวลาว่างงานไม่มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างรายได้ดีที่ในประเทศไทยในช่วงเวลานี้ แต่ในประเทศฟินแลนด์มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างรายได้จากการเก็บผลไม้ป่าที่นั่น
เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจและยอมรับความจริงว่าจะมีคนไทยเพียงบางกลุ่มเท่านั้นที่มีความสามารถในการทำงานเก็บผลไม้ป่าจริงๆ ดังนั้นผมจะพูดเกี่ยวกับคนเก็บผลไม้ป่าที่แท้จริงเท่านั้นนะครับในขณะนี้ คนเก็บผลไม้ป่าที่แท้จริงนั้นผมหมายถึงบุคคลที่เหมาะกับงานประเภทนี้ โดยปกติทั่วไปจะเป็นผู้ที่เป็นชาวนาหรือชาวไร่
พวกเราทำไร่ทำนาด้วยสองมือของพวกเราตั้งแต่สมัยเราเป็นเด็กเล็ก ๆ บริษัทเบอร์รี่ทุกบริษัทในฟินแลนด์ก็ต้องการทำงานร่วมกับพวกเราเนื่องจากพวกเราเป็นผู้คัดสรรสินค้าที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับ คนจากประเทศอื่น ๆ
ความจริงก็คือในการเก็บผลไม้ป่าก็เป็นงานที่เหมือนกับการทำงานเช่นเดียวกับการทำไร่ทำนา คือบุคคลเป็นผู้กำหนดตัวเอง, เป็นการทำงานหนักและเป็นการทำงานอย่างต่อเนื่องสามารถจัดการงานได้เป็นอย่างดี
สำหรับคนเก็บผลไม้ป่าคนไทยรายได้จากการเก็บผลไม้ป่ามักจะสูงกว่าหลายเท่าเมื่อเทียบกับรายได้จากการทำไร่ทำนา ในงานนี้คุณอาจจะชนะหรือสูญเสียก็ได้เช่นเดียวกันกับการทำไร่ ทำนา
รายได้จากการเก็บผลไม้ป่า ขึ้นอยู่กับความสามารถของคนเก็บและขึ้นอยู่กับการการเกิดของผลไม้ป่าและปัญหาเกี่ยวกับราคาของผลไม้ป่าและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่ว่าคนเก็บผลไม้ป่าได้รับโอกาสอะไรบ้างเพื่อที่จะให้เขาได้สร้างรายได้ให้กับตัวเองในประเทศฟินแลนด์ .
ผู้เก็บผลไม้ป่านั้นไม่กล้าที่จะนำประเด็นที่มีข้อ จำกัด เหล่านี้มาเผยแพร่ต่อสาธารณชนเนื่องจากกลัวว่าอาจทำให้พวกเขามีปัญหาในการมาเก็บผลไม้ป่าสำหรับปีหน้าอีกครั้งในประเทศฟินแลนด์
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ก็มีนักล่าโชคลาภบางรายและนักเดินทางบางรายที่ยังไม่มีทัศนคติที่ถูกต้องต่องานประเภทนี้
การยุติเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ คือเจ้าหน้าที่สถานทูตฟินแลนด์ควรจะสัมภาษณ์ผู้ที่ยื่นคำร้องขอที่กำลังจะเดินทางไปยังประเทศฟินแลนด์ในฐานะคนเก็บผลไม้ป่า
ผู้สมัครคนอื่น ๆ ทั้งหมดจะได้รับการสัมภาษณ์ยกเว้นคนไปเก็บผลไม้ป่า ทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น?
ตอนนี้ผมจะบอกเล่าเรื่องราวความคิดเห็นของผู้เก็บผลไม้ป่าที่แท้จริง ไม่ได้มาเล่าเรื่องราวของพวกกลุ่มคนที่หลวกลวงที่มีใครที่สัญญากับพวกเขาว่าถ้าหากพูดเรื่องราวที่ทำให้น่าสงสารได้ก็จะได้รับเงินตอบแทนอย่างงาม
พวกเราที่เป็นคนเก็บผลไม้ป่าที่แท้จริง เข้าใจผู้รับซื้อผลไม้ว่าไม่สามารถจะมาออกเงินในการเดินทางให้กับคนบางคนเพื่อมาแค่พักผ่อนในประเทศฟินแลนด์ หรือมารับผิดชอบในกรณีที่บางคนกำลังเดินทางมาที่ฟินแลนด์โดยมีวัตถุประสงค์อื่นหรือบางคนที่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำงานในฐานะคนเก็บผลไม้ป่าได้
สำหรับคนเก็บผลไม้ที่แท้จริงนั้น ปัญหาที่สำคัญที่สุดคือเขาจะมีรายได้เท่าไหร่ที่เขาจะได้รับกลับบ้านจากการเดินทางไปฟินแลนด์ของเขา สิ่งอื่น ๆ ไม่สำคัญสำหรับเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสิ่งเหล่านั้นกำลังทำให้เงินคงเหลือของเขานั้นลดลง
ในประเทศสวีเดนคนเก็บผลไม้คนไทยทั่วไปจะไม่ได้รับเงินกลับบ้าน การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภายใต้การทำงานของนายจ้างและลูกจ้างไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาของคนเก็บผลไม้ป่าเลย
ทั้งในฟินแลนด์สถานการณ์ของคนเก็บผลไม้ป่าคนไทยก็ยังไม่สู้ดีนัก
คนเก็บผลไม้ป่าสามารถสร้างรายได้ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้กลับบ้านเมื่อเขาสามารถตัดสินใจได้อย่างอิสระในสิ่งที่เขาจะเลือกเก็บผลิตผลอะไรบ้าง เลือกที่จะเก็บที่ไหน และเขาสามารถอยู่ที่ประเทศฟินแลนด์ได้จนกว่าจะจบฤดูการเก็บผลไม้ น่าเสียดายที่สถานการณ์ปัจจุบันนี้สำหรับคนเก็บผลไม้ป่าคนไทยไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ผู้เก็บผลไม้ป่าคนไทยเดินทางมาที่ประเทศฟินแลนด์ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว พวกเขามาเก็บผลไม้ป่าตามสิทธิของคนธรรมดาสามัญและมีความเสี่ยงด้วยตัวเอง โดยทั่วไปเป็นนักท่องเที่ยวอิสระ แต่ไม่ใช่ในทางปฏิบัติ
ผลที่ตามมาของนโยบายด้านกฎระเบียบและคำสั่งทำให้คนเก็บผลไม้ป่าคนไทยถูกลิดรอนเสรีภาพ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆสามารถมีเสรีภาพตามกฎหมายในประเทศฟินแลนด์
บุคคลอื่นๆที่ได้กระทำการแทนคนเก็บผลไม้ป่า ได้ตัดสินใจให้กับพวกคนเก็บผลไม้ป่านั้นจะได้รับอนุญาตให้ทำงานในฟินแลนด์อย่างไร นี่ไม่ใช่ข้อได้เปรียบของพวกเขา นี่เป็นข้อเสียส่วนใหญ่ในงานนี้เลย
น่าแปลกใจมากไปกว่านั้น คือความต้องการสำหรับผู้เก็บผลไม้ป่าคนไทยที่จะต้องมีใบอนุญาตให้ออกจากประเทศไทยเมื่อเดินทางไปเป็นนักท่องเที่ยวที่ประเทศฟินแลนด์ ยังสงสัยว่าทำไม?
คนไทยถูกเลือกให้ปฏิบัติในเรื่องเหล่านี้
ถ้าคนเก็บผลไม้ป่าคนไทยเริ่มที่จะทำตามผลประโยชน์ของตัวเองมันก็จะเกิดสิ่งที่ไม่ดีขึ้นสำหรับเขา
ในทางปฏิบัติคนไทยได้รับอนุญาตให้เก็บบลูเบอร์รี่และ เรดเบอร์รี่ ได้ บางครั้งก็สามารถเก็บลูกคลาวเบอร์รี่ได้แต่ในปริมาณที่จำกัด ในบางกรณีพิเศษก็สามารถเก็บเห็ดบางชนิดได้แต่ก็เก็บได้ในปริมาณที่เล็กน้อยเท่านั้น สิ่งเหล่านั้นจะสามารถเก็บได้หรือไม่จะต้องได้รับอนุญาตจากบริษัทผู้เชิญของพวกเขาเท่านั้น
คนเก็บผลไม้ป่าคนอื่นๆทุกคนมีอิสระสามารถเลือกเก็บและเลือกขายผลไม้เบอร์รี่และเห็ดได้ทุกประเภทและสิ่งเหล่านั้นก็สามารถพบเจอได้ในป่า คนไทยก็อยากจะมีอิสระเช่นเดียวกันและทำให้ บริษัท ต่างๆเกิดการแข่งขันกันเรื่องราคา เพื่อที่คนเก็บผลไม้ป่าจะได้เพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง
สิ่งนี่เป็นไปไม่ได้สำหรับคนเก็บผลไม้ป่าคนไทยเพราะเขาต้องมีบริษัทผู้เชิญซึ่งพวกเขาจะต้องปฏิบัติตามถ้าหากอยากจะกลับมาฟินแลนด์อีกครั้งในปีหน้า
การเกิดของผลไม้เบอร์รี่แตกต่างกันอย่างมากในแต่ละปีและแตกต่างกันในระหว่างภูมิภาคต่างๆในประเทศฟินแลนด์ ความแตกต่างของชนิดของผลเบอร์รี่และทั้งการเจริญเติบโตนั้นก็จะแตกต่างกันไปตามชนิดของป่าไม้อีกด้วย
การเคลื่อนย้ายตามการเกิดของผลเบอร์รี่นั้น เป็นกุญแจสำคัญและเป็นทุกอย่างเมื่อคุณต้องการประสบความสำเร็จในการเก็บผลไม้ป่า บางปีมันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะหาผลเบอร์รี่เจอและบางปีก็ไม่ง่ายเลย
เมื่อพบแหล่งเก็บที่ดี มีเพียงคนที่มีแรงจูงใจและคนที่ทำงานหนักเท่านั้นที่สามารถทำงานได้ดี ปกติแล้วชาวนาชาวไร่สามารถทำงานแบบนี้ได้ แต่ในหลาย ๆ กรณีคนที่เป็นพนักงานโรงงานหรือพนักงานขายไม่สามารถทำงานแบบนี้ได้เลย
มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนเก็บผลไม้ป่าที่เขาสามารถทำงานได้ตลอดเวลาในพื้นที่ที่มีผลไม้มาก นอกจากนี้คนเก็บผลไม้ป่าต้องเปลี่ยนพื้นที่ในการเก็บของเขาตามการเกิดและการสุกพร้อมเก็บของผลเบอร์รี่และเป็นไปได้ที่จะต้องตามผลเบอร์รี่หลายครั้งในช่วงฤดูนั้น
ที่พักสำหรับหลาย บริษัท จะตั้งอยู่ในพื้นที่ ไคนู ในปี 2561 ซึ่งไม่มีผลเบอร์รี่เลยในพื้นที่นั้น การเก็บต้องไปเก็บพื้นที่อื่น อย่างไรก็ตามบางบริษัทก็ยังคงให้คนเก็บผลไม้ป่าของตัวเองพักอาศัยอยู่ในที่พักต่างๆของบริษัทที่มีอยู่ในพื้นที่ที่ไคนู บางบริษัทก็ให้คนเก็บผลไม้อยู่ที่เดิมโดยไม่ย้ายไปไหนตั้งแต่ต้นจนจบฤดูกาลเก็บ
ถ้าบางคนต้องการที่จะเลือกไปเก็บลูกคลาวเบอร์รี่ เขาต้องเดินทางไปยังทางเหนือของแล๊ปแลนด์
ในปี 2561 สำหรับลูกบลูเบอร์รี่คนเก็บผลไม้ป่าต้องเดินทางไปยังเมืองกูซ่าโม่ และ ซัลล่า เนื่องจากพื้นที่แห่งอื่นมีปริมาณผลไม้น้อยเกินไปไม่พอที่จะเก็บได้
คนเก็บผลไม้ส่วนใหญ่จะขับรถระยะทางไกลมาก ตัวอย่างเช่นไป-กลับ จากพื้นที่ที่เก็บไปยังแค้มป์ที่พักที่กายานิ ระยะทางขับรถมากกว่า 700 กม.
ในกรณีเหล่านี้คนเก็บผลไม้จะต้องกลับ-ไปแค้มป์หลักของพวกเขาทุกๆสองคืนหรือทุกๆสามคืนที่จะต้องนำลูกเบอร์รี่ที่เก็บได้ของพวกเขากลับไปที่แค้มป์และพร้อมกับไปเอาอาหารเพิ่มเพื่อที่จะได้นำติดตัวไป ส่วนมากแล้วคนเก็บผลไม้ป่าจะนอนค้างคืนในป่า คือจะต้องทำวิธีอย่างนี้เท่านั้นที่สามารถหาเงินได้เพียงพอ
ระบบการปฏิบัติต่อผู้เก็บผลไม้ป่าในปัจจุบันนี้ บ่อยครั้งที่คนเก็บผลไม้ป่าไม่มีตัวเลือกอื่นใดในการหาเงินกลับบ้านได้เลย
โชคดี ตอนที่ค้างคืนในป่าไม่มีใครมารบกวนคนเก็บผลไม้ป่าในบริเวณนั้น
สำหรับทุกคืนที่ค้างคืนในป่า คนเก็บผลไม้ป่าจะต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนของค่าเช่าให้กับบริษัทผู้เชิญของพวกเขา
สำหรับการเก็บลูกเรดเบอร์รี่คนเก็บผลไม้ป่าต้องไปยังพื้นที่ที่แตกต่างกัน ในปี พ.ศ. 2561 คนไทยส่วนใหญ่ก็เก็บเรดเบอร์รี่ ในเขตภาคเหนือของคาเรเลียและพื้นที่ที่โกกโกลา
สำหรับการเก็บลูกเรดเบอร์รี่นั้นคุณจะต้องเดินทางไกลมาก
ที่นั่นจะมีเห็ดในป่าด้วย แต่เพียงไม่กี่บริษัทผู้เชิญจะซื้อเห็ดจากคนเก็บผลไม้ของพวกเขา
คนเก็บผลไม้ป่าไม่กล้าที่จะขายเห็ดให้กับที่อื่นนอกเหนือจาก บริษัทผู้เชิญของพวกเขาเอง เพราะหากคุณถูกบริษัทจับได้หลังจากนั้นคุณจะไม่ได้รับการต้อนรับให้เป็นคนเก็บผลไม้ป่าของบริษัทอีกต่อไปในปีหน้า
ในขณะนี้เราจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ มีตัวเลือกในการเลือกที่จะเก็บและเลือกท่ีจะขายผลิตภัณฑ์ได้อย่างอิสระ ซึ่งนั่นเป็นผลกำไรสูงสุดสำหรับเราในแต่ละช่วงเวลา
ถ้าไม่มีผู้เชิญสำหรับเราเราก็สามารถทำได้
ผลเบอร์รี่ต่างๆ ทั้งหมดในปีพ. ศ. 2561 ถูกเก็บจากทั่วประเทศฟินแลนด์
สำหรับปีที่กำลังจะมาถึงไม่มีใครสามารถพูดอะไรได้เลยว่าในส่วนภูมิภาคไหนของประเทศฟินแลนด์คนเก็บผลไม้ป่าต้องขับรถเพื่อหาเบอร์รี่เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้
ปริมาณของลูกเบอร์รี่ในพื้นที่เกิดนั้นจะสามารถรู้ได้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ก็ต่อเมื่อผลเบอร์รี่นั้นสุกเท่านั้น
บริษัทผู้เชิญนั้นจะเป็นเพียงฝ่ายเดียวที่ตัดสินใจให้กับคนเก็บผลไม้ป่าจ่ายค่าเช่าที่พักในสถานแห่งใดบ้าง ในหลาย ๆ กรณีสถานที่พักนั้นก็ไม่ได้อยู่ใกล้กับพื้นที่ที่เก็บผลไม้เลย
การจัดหาที่พักจากบุคคลภายนอกนั้นจะเป็นไปไม่ได้สำหรับคนเก็บผลไม้ป่า เพราะมันจะเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาเป็นสองเท่าเพราะคนเก็บผลไม้ป่าจะต้องจ่ายค่าเช่าไปสองแห่งในเวลาเดียวกันและพวกเขาไม่สามารถที่จะทำเช่นนั้นได้
ปัญหาพวกนี้ก็ไม่เกิดขึ้นถ้าหากคนเก็บผลไม้ป่าจะเดินทางเข้ามาเองโดยไม่มีผู้เชิญ
ความเห็นของเราคือคนควรมีอิสระมีสิทธิที่จะตัดสินใจด้วยตัวเองว่าเขาจะจัดหาที่พักที่ไหนให้กับตัวของเขาเอง
การย้ายคนเก็บผลไม้ป่าออกจากแค้มป์ของบริษัทผู้เชิญนั้นเป็นการสูญเสียรายได้และเพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทเองเป็นเงินนับหมื่นยูโรที่ต้องสูญเสีย และนี่เป็นเหตุผลที่ส่วนมากแล้วบริษัทจะไม่อยากที่จะย้ายคนเก็บผลไม้ไปที่ไหนเลย
ผมเองก็เคยเห็นคนเก็บผลไม้ป่าจากประเทศอื่นๆ นอกจากคนเก็บผลไม้คนไทย พวกเขาก็ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าให้กับผู้ใดเมื่อมาพักค้างคืนในป่า
พวกเรามาจากชนบทและสามารถอยู่รอดได้ในป่า แต่เรายังคงต้องจ่ายค่าเช่าที่พักให้กับบริษัทผู้เชิญถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เข้าพักก็ตาม สาเหตุที่ไม่พักเนื่องจากเหตุผลที่ว่าสถานที่พักนั้นอยู่ในพื้นที่ไกลและไม่ใกล้กับสถานที่เก็บผลไม้เลย
มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือ?
ปัญหาที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับเราคือการขนส่งทางไกล เรามีการขนส่งผลเบอร์รีจากการที่ต้องใช้ต้นทุนของเราเองเพื่อส่งเบอร์รี่ไปยังจุดรับซื้อของบริษัทผู้เชิญของเรา ซึ่งในบางครั้งจุดรับซื้อนั้นตั้งอยู่ห่างจากพื้นที่เก็บสินค้าเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร
พวกเราสูญเสียเวลาในการเก็บผลไม้ไปกับการข่นส่งผลเบอร์รี่และยังต้องจ่ายค่าขนส่งสำหรับผลเบอร์รี่เหล่านี้อีก
ที่พักราคาถูกเห็นได้ชัดจากผู้เชิญของเราจะกลายเป็นราคาแพงมากสำหรับเราในที่สุด
ไม่ควรเป็นความรับผิดชอบของคนเก็บผลไม้ป่าในการขนส่งผลเบอร์รี่ทั่วประเทศฟินแลนด์ให้แก่บริษัทผู้เชิญ
พวกเราไม่มีทางเลือกถ้าพวกเราต้องการกลับมาที่ฟินแลนด์อีกครั้งในปีหน้าเพื่อมาเก็บผลไม้ป่า
พวกเราต้องการขายผลไม้ป่าของเราได้อย่างอิสระซึ่งใกล้กับสถานที่เก็บผลไม้ของเรา
พวกเราสามารถทำเช่นนั้นได้หากพวกเราสามารถเดินทางมาที่ฟินแลนด์ได้โดยไม่ต้องมีผู้เชิญ
เมื่อเราถูกบังคับให้ต้องขับรถไปในระยะทางไกลไม่ใช่แค่เรื่องปัญหาทางการเงินอย่างเดียว แต่ก็เป็นปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัยของเราเช่นกัน คนขับเกิดความเหนื่อยล้าจากการขับรถและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ง่าย
นอกจากนี้ราคาผลไม้เบอร์รีป่ายังไม่ถูกต้องสำหรับเรา เงินของเราที่ถูกส่งต่อผ่านมากับคนกลางอีกทอดนั้น ในหลายกรณีคนเก็บผลไม้ป่าหลายคนยังไม่ได้รับเงินตามจำนวนที่ถูกต้องในประเทศไทยเลย
คนเก็บรายอื่น ๆ ได้รับเงินเป็นเงินสดตลอดเวลา ทำไมเราไม่ได้เงินสดเหมือนกับเขา? เราจะไม่เกิดปัญหาแบบนี้เลยถ้าเราไม่มีผู้เชิญ
ปัญหาที่สำคัญที่สุดสำหรับคนงานคือเป็นเงินของเราที่จะได้รับกลับบ้าน เราเริ่มต้นที่จะรวบรวมเงินของเราเองได้ในตอนท้ายของฤดูกาลเท่านั้นเพราะในต้นฤดูกาลนั้นเราจ่ายคืนค่าเดินทางก่อน
บริษัทส่วนใหญ่จะให้เราอยู่ในฟินแลนด์เพียงประมาณ 70 วันดังนั้นเราจะไม่มีเวลามากพอที่หาเงินของเรากลับบ้านเลย
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคนเก็บผลไม้ป่าจำนวนมากกลับบ้านไปโดยไม่มีเงิน คนเก็บผลไม้ป่าไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าเขาต้องการจะอยู่ที่ฟินแลนด์เป็นเวลานานแค่ไหน ส่วนใหญ่คนเก็บผลไม้ป่าต้องการอยู่นานกว่าที่บริษัทสั่งให้อยู่ อยากอยู่จนถึงวันสิ้นสุดฤดูกาลเก็บผลไม้และเก็บเห็ดเลย
วิธีนี้เราสามารถเดินทางมาและอยู่กับความเสี่ยงน้อยที่สุดและได้เงินกลับบ้านมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ อีกครั้งปัญหาของเราคือเราถูกบังคับให้มีผู้เชิญ
ผู้เก็บผลไม้จำนวนมากมีความคุ้นเคยและรู้จักบุคคลที่พวกเขาสามารถติดต่อเพื่อรับบริการต่างๆในประเทศฟินแลนด์แล้ว
วิธีการที่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยพวกเราได้ในเรื่องเหล่านี้ คือในขณะที่เรากำลังยื่นขอวีซ่าเจ้าหน้าที่สามารถให้รายชื่อผู้ให้บริการที่พักที่เป็นไปได้บางส่วน และรายชื่อบริษัทที่เช่ารถและรายชื่อผู้ที่รับซื้อผลไม้และรายชื่อผู้ที่รับซื้อเห็ดให้แก่คนเก็บผลไม้ป่า
จากรายชื่อเหล่านี้คนเก็บผลไม้สามารถเลือกสิ่งที่ดีและเหมาะสมที่สุดให้แก่ตัวเขาเองได้
คนเก็บผลไม้ป่าคนไทยทุกคนสามารถใช้โทรศัพท์มือถือและบริการที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับเขาได้
พวกเราเป็นคนยากจน แต่ไม่ได้โง่เขลาและไม่ได้หมดหนทางและไม่ต้องการมีผู้ปกครอง เราต้องการที่จะตัดสินใจเองในสิ่งที่ตัวเองเป็นอิสระที่สามารถทำได้
สำหรับผู้ที่ต้องการจะเดินทางมาประเทศฟินแลนด์อีกครั้งในปีถัดไปจะไม่สามารถปฏิบัติตามผลประโยชน์ของตัวเองได้เนื่องจากจะต้องมีผู้เชิญในอนาคต ดังนั้นพวกเขาต้องอยู่อย่างภักดีไม่มีปากเสียงเพียงเพื่อการนี้
ในประเทศไทยเราต้องให้หนังสือเดินทางไว้กับนายหน้าบางคนซึ่งเป็นผู้เจรจาต่อรองกับผู้ประสานงานจากหลายๆบริษัท บางครั้งคนเก็บผลไม้ป่าก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองต้องเดินทางไปฟินแลนด์กับใครหรือบริษัทอะไร
คนเก็บผลไม้จำนวนมากต้องการสมัครวีซ่าได้ด้วยตัวเองหรือบางคนก็ใช้สำนักงานตัวแทนจัดการท่องเที่ยวในการดำเนินการดังกล่าว แต่ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถทำได้ เพราะถ้าบางคนจะทำพวกเขาจะได้รับการตัดสินวีซ่าในแง่ลบโดยอัตโนมัติ หากไม่มีผู้ประสานงานของบริษัทแล้วคนเก็บผลไม้ป่าจะไม่สามารถขอวีซ่าเพื่อไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ได้เลย
ทำไมคนอื่นบางคนจึงสามารถขอวีซ่าเข้าประเทศฟินแลนด์ได้โดยไม่ต้องผ่านนายหน้า แต่ทำไมสำหรับพวกเราไม่สามารถขอวีซ่าได้
หากไม่มีบริษัทผู้เชิญซึ่งมีโควตาคนเก็บผลไม้ป่าคนไทยก็ไม่สามารถขอวีซ่าไปฟินแลนด์เพื่อหาเบอร์รี่ได้ และในปัจจุบันนี้มีเพียงไม่กี่บริษัทที่มีโควต้า ในขณะนี้สิ่งนี้ควรจะมีการเปลี่ยนแปลง เราควรจะมีวีซ่าของเราโดยไม่ต้องมีผู้เชิญ ใด ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหามากมาย
คนเก็บผลไม้ป่าที่มาจากประเทศอื่นสามารถมาเก็บผลไม้ได้อย่างอิสระเสรี แต่คนไทยทำไมถึงไม่สามารถทำได้ พวกเราสงสัยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ?
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเจ้าหน้าที่ควรปฏิเสธบุคคลที่ไม่เหมาะสมออกจากการเดินทางและเปิดโอกาสให้คนเก็บผลไม้ป่าตัวจริงเลือกคู่ค้าในฟินแลนด์ได้อย่างอิสระ
ไม่ต้องกลัวว่าพวกเราจะถูกทิ้งให้เคว้งคว้าง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีบริการต่างๆ และไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีผู้รับซื้อ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เรากลัว เพราะจะมีผู้รับซื้อหลายแห่งที่ต้องการคนเก็บผลไม้ที่แท้จริงในประเทศฟินแลนด์
พวกเรายังอยากจะมาเก็บผลไม้เบอร์รี่ป่าในฟินแลนด์และเป็นสิ่งที่ดีมากเมื่อเราได้รับอนุญาตให้ทำอย่างอิสระ